กำลังคิดที่จะเปิดกิจการร้านอาหารอยู่หรือไม่
กำลังคิดว่าห้องครัวควรจะมีอุปกรณ์อะไรบ้าง?
มีหลายเรื่องที่ต้องทำเมื่อจะเริ่มเปิดกิจการร้านอาหาร เราต้องเลือกทำเล ออกแบบร้าน จ้างพนักงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ในทำนองเดียวกัน อุปกรณ์สำหรับห้องครัวก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ร้านอาหารดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น
ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รวบรวมรายการอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับห้องครัวไว้ในบทความนี้ การมีเครื่องมือเหล่านี้ จะทำให้ร้านอาหารของคุณดำเนินงานกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เรายังได้จัดหมวดหมู่เครื่องมือประเภทต่าง ๆ ตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้การเลือกซื้อเป็นไปอย่างมีระบบ เชิญอ่านรายการอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องครัวที่ร้านอาหารทุกร้านต้องมี:
- อุปกรณ์ทำอาหาร
- เตาอบ
- เตาประกอบอาหาร
- พัดลมระบายอากาศ
- เตาย่าง
- อุปกรณ์ทำความเย็น
- ตู้แช่แข็งและตู้เย็น
- เครื่องทำน้ำแข็ง
- เครื่องจ่ายเครื่องดื่ม
- อุปกรณ์จัดเก็บ
- ชั้นวางของในครัว
- ภาชนะสำหรับเก็บของ
- อุปกรณ์เตรียมอาหาร
- เครื่องปั่นอเนกประสงค์
- เคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหาร
- เครื่องผสม
- เครื่องตัด
- เครื่องปั่น
- เครื่องมือขนาดเล็กต่าง ๆ
- อุปกรณ์ทำความสะอาด
- อ่างล้างจาน
- เครื่องล้างจาน
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ซอฟต์แวร์การจัดการร้านอาหาร
- เครื่องพิมพ์และระบบแสดงผลในห้องครัว
ต่อไปจะเป็นรายละเอียดของรายการอุปกรณ์ที่กล่าวไป
อุปกรณ์ทำอาหาร
แน่นอนว่า อุปกรณ์ทำอาหารมีความสำคัญอย่างมากสำหรับห้องครัวของร้านอาหารทุกแห่ง
แต่อุปกรณ์ทำอาหารแบบไหนถึงจะเหมาะกับร้านอาหารของคุณ?
ในขณะที่เลือกอุปกรณ์ทำอาหาร โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ชิ้นใดที่พนักงานของคุณจะใช้บ่อยที่สุด อย่าลังเลที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพ มิฉะนั้นอาจทำให้ร้านอาหารของคุณเสียเงินมากขึ้นในระยะยาว
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำอาหารมีดังนี้
1. เตาอบ
อย่างที่คุณทราบ ทุกครัวต้องมีเตาอบ
แต่จะต้องใช้เตาอบแบบไหน?
ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารที่ร้านอาหารให้บริการ
ประเภทของเตาอบแบ่งตามวัตถุประสงค์
ประเภทของเตาอบแบ่งตามประเภทของอาหารมีดังนี้
- เตาอบทั่วไป : สามารถประกอบอาหารทั่วไปที่ต้องผ่านการอบได้ ห้องครัวในร้านอาหารทุกแห่งต้องการเตาอบแบบนี้อย่างน้อยหนึ่งเตา
- เตาอบแบบพาความร้อน : ใช้สำหรับอบขนม เช่น ขนมอบ พาย ขนมปัง ฯลฯ
- เตาอบแบบผสม : สามารถประกอบอาหารได้หลายวิธี เช่น ย่าง คั่วทอด และอบ
- เตาอบพิซซ่า : ใช้สำหรับทำพิซซ่า หรือแม้แต่ขนมหวาน
ซื้อเตาอบทั่วไปอย่างน้อยหนึ่งเตา จากนั้นซื้อเตาอบประเภทอื่น ๆ ตามความต้องการของร้านอาหารของคุณ
ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อเตาอบ:
ขนาดเตาอบ
เตาอบมีขนาดใหญ่และกินพื้นที่ในห้องครัว ดังนั้น ควรคำนวณพื้นที่ห้องครัวให้ดีก่อนซื้อเตาอบ และยังต้องประมาณปริมาณอาหารที่ต้องทำต่อวัน เพื่อเลือกซื้อเตาอบที่มีขนาดพอดี
คุณภาพเตาอบ
เตาอบดี ๆ มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ก่อนที่จะเลือกซื้อเตาอบยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ควรอ่านความเห็นของผู้ที่เคยใช้งานจริงบนอินเทอร์เน็ต
2. เตาประกอบอาหาร
เช่นเดียวกับเตาอบ เตาประกอบอาหารมีความสำคัญอย่างมากต่อร้านอาหาร เพราะช่วยให้คุณทำอาหารได้หลายวิธี
ความแตกต่างระหว่างเตาประกอบอาหารกับเตาทั่วไป?
โดยปกติแล้ว เตาประกอบอาหารจะประกอบรวมเข้ากับเตาอบ เตาทั่วไปจะไม่มีเตาอบ
เตาประกอบอาหารมีสองประเภท:
- เตาแก๊ส: เตาประกอบอาหารแบบนี้สามารถปรุงอาหารได้รวดเร็ว ข้อเสียคือ ความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้และอุบัติเหตุ และยังทำความสะอาดยากอีกด้วย
- เตาไฟฟ้า: เตาประกอบอาหารแบบนี้ใช้งานง่ายและทำความสะอาดได้ง่าย แต่ปรุงอาหารได้ช้า และอาจทำให้ค่าไฟสูงขึ้นอีกด้วย
3. พัดลมระบายอากาศ
ห้องครัวในร้านอาหรทุกแห่งต้องมีระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ ระบบระบายอากาศที่ดีช่วยการันตีคุณภาพอากาศที่ดีในร้านอาหาร หากไม่มีการระบายอากาศที่เหมาะสม พนักงานอาจมีปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้น จึงไม่ควรลังเลที่จะสร้างระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ
เรื่องแรกที่ต้องพิจารณาคือ ผังห้องครัวในร้านอาหารของคุณ เมื่อสร้างระบบระบายอากาศ ตัวอย่างเช่น ควรมีช่องระบายอากาศเหนือเตาและหม้อทอดเพื่อดูดน้ำมันและควันจากการปรุงอาหารออกไปจากห้องครัว ในทางกลับกัน เราอาจไม่ต้องการช่องระบายอากาศเหนืออ่างล้างจาน
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อพัดลมระบายอากาศ:
- อัตราการไหลของปริมาณอากาศ
- ขนาดของพัดลม
- ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้
- เสียงรบกวน
4. เตาย่าง
สเต็กและเบอร์เกอร์นั้นแสนอร่อย! หากคุณอยากขายสเต็กและเบอร์เกอร์ ครัวของคุณต้องมีเตาย่าง
แต่ปัญหาใหญ่ของการมีเตาย่างคือ พวกมันกินพื้นที่ หากมีพื้นที่กลางแจ้ง เช่น เฉลียง เราสามารถวางเตาปิ้งย่างได้สบาย ๆ ไม่งั้นก็ต้องซื้อเตาย่างสำหรับใช้ในร่ม
หากคุณวางแผนที่จะซื้อเตาย่างสำหรับใช้ในร่ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ออกแบบห้องครัวและระบบระบายอากาศไว้แล้วอย่างเหมาะสม
หมายเหตุ: หากการย่างไม่ใช่ตัวเอกสำหรับร้านอาหารของคุณ ลองเลือกซื้อเตาอบอเนกประสงค์ที่สามารถย่างอาหารได้ เพราะคุณสามารถย่างอาหารเป็นครั้งคราวได้เมื่อจำเป็น
5. ไมโครเวฟ
อุปกรณ์อเนกประสงค์นี้มีประโยชน์มากสำหรับครัวร้านอาหาร เราสามารถใช้เพื่อละลายน้ำแข็ง หรืออุ่นอาหารที่เตรียมไว้ ควรเก็บเตาไมโครเวฟไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
6. อุปกรณ์ทำอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์
ด้านบนคือ อุปกรณ์ทำอาหารที่จำเป็น ต่อไป เราจะพูดถึง อุปกรณ์ที่อาจจะไม่จำเป็น แต่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการทำอาหาร:
- หม้อทอด : มีประโยชน์มาก ๆ เมื่อต้องทอดอาหาร เช่น เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด ฯลฯ
- ตู้เก็บอาหาร : ใช้เพื่อเก็บอาหารไว้ที่อุณหภูมิหนึ่ง ก่อนที่จะอาหารจะเซ็ตตัวและพร้อมเสิร์ฟ
- เครื่องปิ้งขนมปัง : ใช้สำหรับทำส่วนประกอบของอาหารเช้า
- เครื่องชงกาแฟ : แม้ว่าร้านอาหารจะไม่ใช่ร้านกาแฟ แต่กาแฟก็เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ร้านอาหารทุกแห่งควรมี ลูกค้ามักจะสั่งคู่กับอาหารเช้า
อุปกรณ์ทำความเย็น
มีคำถามที่สำคัญ 3 ข้อ ที่ต้องถามตัวเองขณะเลือกซื้อตู้เย็นและตู้แช่แข็งสำหรับห้องครัวร้านอาหาร:
- ความจุ - ร้านอาหารต้องเก็บอาหารไว้ปริมาณเท่าไหร่?
- รูปร่าง - มีรูปร่างพอดีกับผังห้องครัวหรือไม่? มีขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่?
- ต้นทุน - ราคาเท่าไหร่?
1. ตู้แช่แข็งและตู้เย็น
จำเป็นอย่างมากสำหรับร้านอาหารที่ต้องลงทุนในตู้แช่แข็งและตู้เย็นคุณภาพสูง เพื่อให้อาหารและวัตถุดิบสดใหม่อยู่เสมอ
ตู้เย็นและตู้แช่แข็งมีความสำคัญอย่างมากต่อการจัดการสินค้าคงคลัง และยังช่วยประหยัดต้นทุนของร้านอาหารอีกด้วย ตัวอย่างเช่น จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ถ้าซื้อไก่ดิบปริมาณมากมาแช่แข็ง แทนที่จะซื้อทีละน้อย
ก่อนซื้อตู้แช่แข็ง ควรพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้:
- ขนาดของห้องครัวในร้านอาหาร
- ปริมาณอาหารที่ต้องจัดเก็บ
- งบประมาณที่มี
เคล็ดลับ : เลือกตู้แช่แข็งที่พนักงานสามารถใช้งานและเข้าถึงได้ง่าย
ตู้แช่แข็งมีสองประเภท:
- ตู้แช่แบบรีสอิน: เป็นตู้แช่แข็งทั่วไป เหมาะสำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง
- ตู้แช่แข็งแบบวอล์กอิน : เป็นตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวาง ใช้เฉพาะร้านอาหารขนาดใหญ่เท่านั้น
เช่นเดียวกับการเลือกซื้อตู้แช่แข็ง การเลือกซื้อตู้เย็น ให้กะปริมาณวัตถุดิบที่ต้องการจัดเก็บ
ก่อนที่จะซื้อตู้แช่แข็งหรือตู้เย็น ลองอ่านความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงที่มีต่อแต่ละแบรนด์บนอินเทอร์เน็ต
2. เครื่องทำน้ำแข็ง
เครื่องทำน้ำแข็ง ไม่ได้ใช้สำหรับบาร์เท่านั้น ลองคิดว่า ถ้าลูกค้าของคุณส่วนใหญ่สั่งน้ำมะนาวหรือน้ำเย็นหนึ่งแก้ว คงจะสะดวกกว่าถ้ามีเครื่องทำน้ำแข็ง ลองหาซื้อเครื่องทำน้ำแข็งที่สามารถผลิตน้ำแข็งให้กับพนักงานของคุณได้ทันทีเมื่อพวกเขาต้องการ
3. เครื่องจ่ายเครื่องดื่ม
หากคุณกำลังวางแผนที่จะเริ่มทำร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ลองพิจารณาการให้บริการเครื่องดื่มแบบบริการตนเอง เพราะช่วยสร้างผลกำไร และง่ายต่อการจัดการและบำรุงรักษา
อุปกรณ์จัดเก็บ
พื้นที่จัดเก็บเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของห้องครัวในร้านอาหาร เช่นเดียวกับการเลือกอุปกรณ์ทำความเย็น ควรพิจารณาเรื่องต่อไปนี้ก่อนซื้อ:
- ความจุ - ร้านอาหารต้องหารจัดเก็บของปริมาณเท่าไร?
- รูปร่าง - เข้ากับผังห้องครัวหรือไม่?
- ต้นทุน - ราคาเท่าไหร่? จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่?
1. ชั้นวางของในครัว
โดยปกติแล้ว ชั้นวางของในครัวเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว เนื่องจาก คุณไม่น่าจะเปลี่ยนชั้นวางของในอนาคตเว้นแต่ว่าคุณวางแผนที่จะปรับปรุงห้องครัวใหม่ทั้งหมด ดังนั้น ชั้นวางของในครัวจะต้องมีการ จัดระเบียบเป็นอย่างดี และ ทนทาน
มีวัสดุมากมายสำหรับการสร้างชั้นวางของในครัว อาทิ สแตนเลส, ลวดโครเมี่ยม, โพลีเมอร์, วัสดุที่เคลือบสารป้องกันจุลินทรีย์ ฯลฯ ควรเลือกวัสดุโดยพิจารณาจากงบประมาณและรสนิยมส่วนบุลคล
ชั้นวางของเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกครัว ช่วยให้พนักงานเข้าถึงอุปกรณ์เครื่องใช้และส่วนผสมต่าง ๆ ได้ง่าย และมีประสิทธิภาพ จัดวางสิ่งของที่ใช้บ่อยบนชั้นวางของเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว จัดวางสิ่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้ในชั้นวางด้านล่าง ชั้นวางของควรถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีตอนที่ออกแบบผังของห้องครัว
หรืออาจลองใช้ ชั้นเก็บของแบบเคลื่อนที่ได้ ร่วมกับชั้นวางของปกติ หากต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของบ่อย ๆ เพราะเพิ่มความสะดวกสบาย และเหมาะสำหรับทั้งการจัดเก็บและการเคลื่อนย้าย
2. ภาชนะสำหรับเก็บของ
ภาชนะสำหรับเก็บของมีประโยชน์มากมายในห้องครัว เราสามารถใช้มันเพื่อเก็บของได้มากมาย เช่น ผักสด ซอส น้ำตาล และของแห้ง เช่น พาสต้า ข้าว และแป้ง
ต่อไปนี้เป็นภาชนะที่ควรมีในห้องครัวของคุณ:
- ภาชนะเก็บผัก : เพื่อให้ผักสดใหม่อยู่เสมอ
- ขวดขนาดเล็ก : สำหรับเก็บวัตถุดิบปริมาณเล็กน้อย เช่น น้ำตาลและกาแฟ
- ขวดสุญญากาศขนาดกลาง : สำหรับเก็บแป้งที่ใช้ทำขนมอบหรือขนมหวานอื่น ๆ
- ขวดสุญญากาศขนาดใหญ่ : สำหรับเก็บส่วนผสมแห้ง เช่น แป้งหรือข้าว
หมายเหตุ : เลือกภาชนะจัดเก็บที่โปร่งใส หรือสามารถติดฉลากหรือรหัสสีได้ง่าย การติดฉลากบนภาชนะจะช่วยประหยัดเวลาให้กับพนักงาน และทำให้ห้องครัวเป็นระเบียบ
อุปกรณ์สำหรับเตรียมอาหาร
อุปกรณ์เตรียมอาหารสำหรับแต่ละร้านอาหารจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารที่ปรุง เราจะพูดถึงอุปกรณ์ที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ต้องการ:
1. เครื่องปั่นอเนกประสงค์
เครื่องปั่นอเนกประสงค์เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับห้องครัวในร้านอาหารที่มีจำนวนออเดอร์มาก เพราะช่วยให้การเตรียมวัตถุดิบเร็วขึ้นและง่ายขึ้น เช่น การหั่น การสับ การซอย การบด และการผสม
สามารถเลือกใช้เครื่องปั่นตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ได้ดังนี้
A. เครื่องปั่นอเนกประสงค์ทั่วไป
ส่วนใหญ่มักใช้ในครัวเรือนหรือร้านอาหารขนาดเล็ก มีชามขนาดใหญ่ที่สามารถใส่ส่วนผสม ปิดฝา แล้วปั่น
B. เครื่องปั่นแบบต่อเนื่อง
เครื่องปั่นประเภทนี้สามารถปั่นวัตถุดิบได้อย่างต่อเนื่อง วัตถุดิบที่เตรียมเสร็จแล้วจะถูกแยกเป็นชาม ๆ เหมาะสำหรับครัวเชิงพาณิชย์เนื่องจากพนักงานสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและไม่ต้องรอขณะที่เครื่องกำลังทำงาน
C. เครื่องปั่นขนาดใหญ่
เป็นเครื่องปั่นที่แข็งแรงและสามารถแล่เนื้อได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ห้องครัวในร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้
2. เคาน์เตอร์เตรียมอาหาร
เคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับห้องครัวในร้านอาหาร พนักงานมักจะทำงานส่วนใหญ่บริเวณนี้ ดังนั้น คุณต้องลงทุนในส่วนนี้อย่างเหมาะสมและเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน
เคาน์เตอร์อาหารทำจากสแตนเลสเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับร้านอาหารส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความทนทาน ป้องกันจุลินทรีย์ และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งตู้เย็นขนาดเล็กไว้ใต้เคาน์เตอร์ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สำหรับเขียง อาจเลือกใช้แบบพลาสติกหรือไม้ก็ได้ เราแนะนำให้ใช้เขียงพลาสติก เนื่องจากไม่มีรูพรุน ทำให้แบคทีเรียอาศัยอยู่ได้ยาก จึงมีความทนทาน นอกจากนี้ ยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่า เขียงควรถูกเปลี่ยนเป็นระยะ ๆ เพราะหากเขียงเกิดรอยแตกหรือร้าว จะทำให้แบคทีเรียเติบโตได้ง่าย
หมายเหตุ: ใช้รหัสสีเพื่อแบ่งเขียงตามประเภทอาหารที่เตรียม ตัวอย่างเช่น ทำเครื่องหมายเขียงด้วยสีแดงสำหรับเนื้อสัตว์ สีเขียวสำหรับผัก สีเหลืองสำหรับอื่น ๆ เป็นต้น วิธีนี้จะช่วยป้องกันการปนเปื้อนระหว่างการทำอาหาร
3. เครื่องผสมแป้ง
หากร้านอาหารมีเบเกอรี่ขายด้วย เช่น เค้ก พิซซ่า ขนมปัง หรือขนมอบ คุณจะต้องซื้อเครื่องผสมแป้งเพื่อเตรียมวัตถุดิบ
เครื่องผสมแป้งมีหลายประเภท ดังนี้
A. เครื่องผสมแป้งขนาดเล็ก
เครื่องผสมแป้งขนาดเล็กมีที่จับตรงยาวพร้อมใบมีดโลหะหมุนที่แหลมคม มีประสิทธิภาพในการผสมซอสและซุป หรือสับส่วนผสมอาหารได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดีคือ สามารถเตรียมวัตถุดิบได้เลยโดยไม่ต้องผ่านเครื่องปั่นอเนกประสงค์
B. เครื่องผสมแป้งแบบตั้งโต๊ะ
เครื่องนี้มีไว้สำหรับร้านเบเกอรี่ขนาดเล็ก หรือร้านอาหารที่ต้องใช้เครื่องผสมแป้งเป็นครั้งคราว บางครัวเรือนอาจมีเครื่องนี้อยู่ด้วย
C. เครื่องผสมแป้งขนาดใหญ่
เรียกอีกอย่างว่า 'เครื่องผสมแป้งแบบตั้งพื้น' ทำขึ้นสำหรับร้านเบเกอรี่ขนาดใหญ่หรือร้านพิซซ่าที่ต้องผลิตแป้งและซอสจำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ
ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่มากและจำเป็นต้องตั้งบนพื้น ใช้ไฟมาก แต่สามารถผลิตส่วนผสมได้อย่างรวดเร็ว
4. เครื่องหั่น
เครื่องหั่นไม่ได้จำเป็นสำหรับห้องครัวในร้านอาหารทุกแห่ง แต่เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการหั่นชีสและเนื้อสัตว์ ควรพิจารณาเลือกซื้อเครื่องหั่น หากร้านอาหารของคุณเสิร์ฟแซนวิช หรืออาหารประเภทเดียวกันจำนวนมาก
5. เครื่องปั่น
เครื่องปั่นมักใช้ในร้านกาแฟและบาร์ เครื่องปั่นมีประโยชน์มากมาย ตัวอย่างเช่น การทำเครื่องดื่มเย็น การทำมิลค์เชค การผสมซอส เป็นต้น หากร้านอาหารของคุณให้บริการเครื่องดื่มจำนวนมากคุณควรซื้อเครื่องปั่น
เครื่องมือขนาดเล็กที่มีประโยชน์
เช่นเดียวกับช่างไม้ที่ต้องการค้อนและเลื่อย พนักงานในครัวก็ต้องการชุดเครื่องมือ เช่น มีด ที่คีบ ชาม ฯลฯ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป จะเป็นเครื่องมือในครัวที่มีประโยชน์ และควรอยู่ในรายการช้อปปิ้งของคุณ:
- มีดเชฟ : ความคมของมีดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะยิ่งมีดคม ยิ่งหั่นและเตรียมส่วนผสมอาหารได้ง่าย อีกทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย
- ช้อน : ควรเตรียมช้อนหลากหลายแบบให้กับพนักงาน เพราะช้อนมีหลายขนาดและมีฟังก์ชั่นการใช้งานแตกต่างกันไป เช่น คนซอส ชิมอาหาร เสิร์ฟอาหาร ตักส่วนผสม และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ที่คีบ : เช่นเดียวกับช้อนในครัว ที่คีบเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่มีประโยชน์หลายด้าน เช่น เสิร์ฟอาหาร ชุบอาหาร เตรียมอาหาร เป็นต้น
- กระทะ : กระทะมีหลายประเภท เช่น สำหรับทอด สำหรับตุ๋น และสำหรับผัด การเลือกซื้อกระทะควรคำนึงถึงอาหารที่ต้องการเสิร์ฟ
- หม้อ : เช่นเดียวกัน หม้อมีหลายประเภท เช่น หม้อต้มซุป หม้อต้มพาสต้า หม้อทำซอส ฯลฯ เลือกซื้อหม้อตามประเภทของอาหารที่ร้านอาหารของคุณต้องการเสิร์ฟ
- ชามผสม : ควรเตรียมชามผสมให้มีขนาดที่หลากหลาย เพื่อใช้งานได้กับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ
- ตะกร้อมือ : เป็นเครื่องมือที่ผสมอากาศเข้ากับส่วนผสมของอาหาร ทำให้อาหารมีเนื้อสัมผัสที่เบาและนุ่ม
- หินลับมีด : มีดควรคมอยู่เสมอ การใช้หินลับมีดเป็นครั้งคราว จะช่วยให้มีดคมเหมือนใหม่
เคล็ดลับ : ในขณะที่เลือกซื้อเครื่องมือเหล่านี้ ควรมั่นใจว่าได้ซื้อมาในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อไม่ให้พนักงานต้องใช้งานอุปกรณ์ผิดวัตถุประสงค์!
อุปกรณ์ทำความสะอาด
สำหรับสถานประกอบการร้านอาหาร ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ นี่เป็นเหตุผลว่า ร้านอาหารควรมีอุปกรณ์ทำความสะอาดที่จำเป็นทั้งหมด ด้านล่างคือรายการอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ร้านอาหารทุกแห่งจำเป็นต้องมี:
1. อ่างล้างจาน
ในร้านอาหาร อ่างล้างจานมีจุดประสงค์หลัก 3 ประการ:
- ล้างจาน
- เตรียมส่วนผสมในการทำอาหาร
- ล้างมือ
อ่างล้างจานมีให้เลือกหลายประเภท ตัวอย่างเช่น:
A. อ่างล้างจานแบบ 3 ช่อง
อ่างล้างจานแบบ 3 ช่องเป็นอ่างล้างจานที่นิยมใช้กันมากในครัวร้านอาหาร คุณสามารถใช้ช่องเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ช่องหนึ่งสำหรับล้างช้อนส้อม ช่องหนึ่งสำหรับล้างมือ และอีกช่องหนึ่งสำหรับฆ่าเชื้อ
B. บาร์ซิงค์
โดยทั่วไปบาร์ซิงค์มักใช้สำหรับทิ้งเครื่องดื่มและน้ำแข็ง บาร์ประเภทนี้มักมีช่องแยกสำหรับล้างแก้ว
C. อ่างกำจัด
อ่างกำจัดมักจะถูกติดตั้งระบบกำจัดเศษอาหาร ควรปิดอ่างทันทีเมื่อไม่ได้ใช้งาน
D. อ่างล้างมือ
อ่างล้างมือมีไว้สำหรับล้างมือโดยเฉพาะ โดยทั่วไปอ่างล้างจานแบบ 3 ช่องก็เพียงพอสำหรับจุดประสงค์นี้
E. อ่างสำหรับไม้ถูพื้น
อ่างสำหรับไม้ถูพื้นมักตั้งอยู่บนพื้น ใช้สำหรับเติมหรือทิ้งน้ำจากถังไม้ถูพื้น
F. อ่างล้างมือแบบพกพา
อ่างลักษณะนี้ส่วนใหญ่ใช้โดยรถบรรทุกอาหาร และธุรกิจอาหารแบบเคลื่อนที่ อ่างจะถูกเชื่อมต่อกับถังน้ำ
2. เครื่องล้างจานขนาดใหญ่
การลงทุนในเครื่องล้างจานขนาดใหญ่เป็นการตัดสินใจที่ดีสำหรับร้านอาหารของคุณ ความจริงแล้ว ในหลายประเทศมีกฎจากกรมอนามัยที่บังคับให้ใช้เครื่องล้างจาน
เครื่องล้างจานจะใช้สารเคมีล้างจานโดยอัตโนมัติและรักษาอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ เครื่องล้างจานมีความสำคัญ เนื่องจาก ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่น ๆในอาหาร
เคล็ดลับ: เพื่อสุขอนามัยที่ดีในร้านอาหาร คุณควรใช้เครื่องล้างจาน
3. รายการอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่น ๆ
นี่คือรายการอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่น ๆ :
- ผ้าขี้ริ้วและผ้าไมโครไฟเบอร์ : มีประโยชน์มากมาย เช่น ทำความสะอาดคราบอาหาร หรือ ของเหลวที่หกบนพื้น เช็ดโต๊ะและเคาน์เตอร์ ขัดเครื่องแก้ว ฯลฯ
- น้ำยาทำความสะอาด : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำยาทำความสะอาดปลอดภัยสำหรับใช้ในครัว นอกจากนี้ ควรมีน้ำยาฆ่าเชื้อสำรองไว้ในร้านอาหาร
- ถังขยะ : เป็นสิ่งสำคัญสำหรับร้านอาหารทุกแห่ง วางถังขยะไว้ในจุดต่าง ๆ ที่ได้วางแผนไว้
- ถังไม้ถูพื้นและไม้ถูพื้น : ใช้สำหรับทำความสะอาดพื้น ทำความสะอาดอาหารที่หกบนพื้น
- ป้าย 'พื้นเปียก' : เพื่อความปลอดภัย ให้ใช้ป้ายนี้เมื่อพนักงานถูพื้น หรือ เมื่อพื้นเปียก
- เครื่องขัดพื้นและฟองน้ำ : ใช้เพื่อขจัดคราบแข็งบนพื้น โต๊ะ หรือ พื้นผิวอื่น ๆ ในห้องครัว
- อุปกรณ์ในห้องน้ำ : กระดาษชำระ สบู่ล้างมือ กระดาษเช็ดมือ และน้ำหอมปรับอากาศ
- ไม้กวาดและที่ตักขยะ : ช่วยรักษาพื้นให้ปราศจากฝุ่นหรือเศษอาหาร ใช้ได้สำหรับทั้งในห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร จะใช้เครื่องดูดฝุ่นร่วมด้วยก็ได้
- ถังสำหรับทำความสะอาด : เติมสารเคมีทำความสะอาดลงในถังเพื่อให้ผสมได้อย่างปลอดภัย ควรใส่รหัสสีเพื่อจัดระเบียบให้ปลอดภัย
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ร้านอาหารสมัยใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานของร้านอาหารทั้งหมดรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่คุณต้องการสำหรับห้องครัวร้านอาหารมีดังนี้
1. ซอฟต์แวร์การจัดการร้านอาหาร
ระบบการจัดการร้านอาหารเป็นซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับร้านอาหารทุกแห่ง ไม่เพียงแต่ช่วยจัดการเรื่องในครัวเท่านั้น แต่ยังช่วยจัดการร้านอาหารทั้งหมด ซอฟต์แวร์การจัดการร้านอาหารสามารถช่วยคุณ
- พิมพ์และสร้างบิล
- จัดการพนักงาน
- ติดตามการขายในร้านอาหาร
- จัดการสินค้าคงคลัง
อ่านบทความเกี่ยวกับ ซอฟต์แวร์การจัดการร้านอาหาร หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม
2. เครื่องปริ้นท์และหน้าจอแสดงผล
ในศตวรรษที่ 21 เราไม่จำเป็นต้องตะโกนสั่งอาหารไปที่ห้องครัว พนักงานไม่จำเป็นต้องจดรายการอาหารด้วยมือเช่นกัน เพราะมันจะทำให้เกิดความเครียดและความผิดพลาดได้ง่าย
มันทำงานอย่างไร?
เมื่อบริกรยืนยันคำสั่งซื้อรายการอาหารที่ลูกค้าสั่งบนซอฟต์แวร์ รายการนั้นจะถูกส่งไปยังห้องครัวทันทีและถูกปริ้นท์ออกมา พนักงานในครัวจึงสามารถเริ่มเตรียมอาหารได้ทันที
ในทำนองเดียวกัน หน้าจอแสดงผลจะแสดงรายการเมนูอาหารที่ลูกค้าสั่งโดยอัตโนมัติหลังจากที่พนักงานเสิร์ฟกดยืนยัน ด้วยวิธีนี้พนักงานในครัวทุกคนจะสามารถดูใบสั่งอาหารที่กำลังดำเนินอยู่ทั้งหมดได้
ระบบนี้ทำให้การดำเนินงานของร้านอาหารเป็นระเบียบ รวดเร็ว และแม่นยำ
ควรซื้ออุปกรณ์มือสองสำหรับร้านอาหารของคุณหรือไม่?
การซื้ออุปกรณ์ร้านอาหารอาจมีราคาแพง เนื่องจากมีหลายสิ่งที่คุณต้องซื้อ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าของร้านอาหารมือใหม่จำนวนมากซื้ออุปกรณ์มือสอง เช่นเดียวกับเรื่องอื่น ๆ วิธีการนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย:
ข้อดี
เป็นไปได้ที่จะได้อุปกรณ์มือสองสภาพเยี่ยมในราคาที่ถูก เนื่องจากร้านอาหารบางแห่งอาจจะยกเลิกการเปิดกิจการจึงขายอุปกรณ์ในราคาถูก โดยที่อุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่ค่อยได้ใช้งาน
ข้อเสีย
อาจมีความเสียหายภายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้ง่าย นอกจากนี้ หากไม่มีการรับประกัน อาจเป็นปัญหาใหญ่เข้าไปอีก
คำตอบ: ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ เช่น เตาอบหรืออ่างล้างจาน อาจใช้ของมือสองได้ แต่พวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้แช่แข็งและตู้เย็น เราแนะนำให้ใช้ของมือหนึ่งจะดีกว่า
รู้สิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้ออุปกรณ์สำหรับห้องครัว
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ร้านอาหารต้องการ เพื่อให้กิจการดำเนินการได้อย่างราบรื่น ควรใช้เวลาในการเลือกซื้อของทุกอย่าง ดังนั้น อย่ารีบร้อน เหนือสิ่งอื่นใด ควรมีความคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับประเภทของร้านอาหารที่คุณกำลังวางแผนว่าจะเปิดกิจการ จากนั้น จึงคิดถึงพื้นที่และงบประมาณของคุณ
นอกจากนี้ ควรซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและทนทาน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถเข้ากับพื้นที่ในห้องครัวที่ออกแบบไว้ได้
ต่อไปเป็นรายละเอียด:
1. คิดถึงพื้นที่
ก่อนที่จะซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหญ่ใด ๆ ให้คำนวณว่าสามารถใส่อุปกรณ์นั้น ๆ ในห้องครัวได้อย่างสะดวกสบายหรือไม่ ต้องแน่ใจว่ามีพื้นที่เพียงพอให้พนักงานในครัวสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างสะดวกสบาย
ออกแบบเค้าโครงห้องครัวในลักษณะที่สามารถเก็บอุปกรณ์ที่คุณต้องการได้ทั้งหมด และยังคงมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับพนักงานครัว
2. จัดการต้นทุน
งบประมาณ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับร้านอาหารทุกแห่ง หากมีงบน้อย ลองคิดดูว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนสำคัญที่สุดสำหรับร้านอาหารของคุณ เพราะพนักงานจะใช้อุปกรณ์ดังกล่าวบ่อยที่สุด ดังนั้น ควรซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงแม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม
หรือ ซื้ออุปกรณ์อเนกประสงค์ หรือ อุปกรณ์ที่มีหลายฟังก์ชัน เช่น เตาอบที่สามารถอบ ทอด และย่างได้
หมายเหตุ: อย่าซื้อวัสดุคุณภาพต่ำ เพราะมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาสูง
3. คิดเกี่ยวกับการเช่าอุปกรณ์
สำหรับเจ้าของร้านอาหารที่มีงบประมาณน้อยนี่อาจเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม หากคุณเช่าอุปกรณ์ คุณจะจ่ายเงินเล็กน้อยทุกเดือน แทนที่จะจ่ายเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินสำหรับค่าใช้จ่ายหลักอื่น ๆ ได้
ข้อดีของการใช้อุปกรณ์ให้เช่าคือ เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น คุณสามารถปิดสัญญาและซื้ออุปกรณ์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์บางอย่างไม่สามารถเช่าได้ อาทิ ช้อนและอุปกรณ์ทำความสะอาด
สรุป
การเลือกและตัดสินใจซื้ออุปกรณ์สำหรับร้านอาหารอาจเป็นงานที่เครียดและใช้เงินมาก ดังนั้น คุณควรเพิ่มบุ๊กมาร์กหน้าเว็บนี้ไว้ เพื่อสามารถเข้าถึงได้ทุกครั้งที่คุณวางแผนจะซื้ออุปกรณ์ในครัว
บทความที่เป็นประโยชน์สำหรับเจ้าของร้านอาหารใหม่
- เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ระบบ POS ร้านอาหารคืออะไรและทำไมคุณถึงต้องการ
- เรียนรู้ วิธีสร้างเว็บไซต์สำหรับร้านอาหารของคุณ และเริ่มรับคำสั่งซื้อออนไลน์
- วิธีทำเมนูสำหรับร้านอาหารของคุณ