ไม่แน่ใจว่าเป้าหมายร้านอาหารของคุณคืออะไร?
กำลังต้องการตั้งเป้าหมายสำหรับธุรกิจร้านอาหารอยู่หรือไม่?
ร้านอาหารก็เหมือนกับธุรกิจประเภทอื่นๆ ที่ต้องมีเป้าหมายเพื่อที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้
ไม่ว่าคุณจะต้องการให้ร้านอาหารทำกำไรได้มากขึ้น มีชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น หรือ เพื่อรักษาลูกค้าไว้ให้ได้มากที่สุด คุณก็ควรตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้
ในบทความนี้เราจะพูดถึง:
- วัตถุประสงค์ของร้านอาหารและความสำคัญ
- เป้าหมายหลักสองประเภทที่ควรตั้ง
- ขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อสร้างเป้าหมายที่จับต้องได้และบรรลุได้
มีหลายอย่างที่คุณสามารถใช้ประโยชน์ได้จากการตั้งเป้าหมายให้เหมาะสม มากไปกว่านั้น ธุรกิจที่ไม่มีเป้าหมายมักล้มเหลว ซบเซา และกลายเป็นประสบการณ์แย่ๆ สำหรับเจ้าของร้าน
บทความนี้จะช่วยคุณหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั้งหมด!
เป้าหมายของร้านอาหาร
เป้าหมายของร้านอาหารมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ
เพราะเป้าหมายของธุรกิจคือเข็มทิศสู่ความสำเร็จ ซึ่งควรกำหนดขึ้นขณะพัฒนาแผนธุรกิจ
คุณไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้โดยปราศจากเป้าหมาย เพราะในไม่ช้า คุณจะพบว่า คุณไม่มีที่ยึดเหนี่ยวและแนวทางในการดำเนินกิจการร้านอาหารของคุณ
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องกำหนดพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมของร้านอาหาร
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเหมาะสมจะช่วยให้คุณ:
- ฝึกอบรมพนักงานให้มุ่งมั่นและบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้
- มีแนวคิดเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับกิจกรรมที่ดำเนินการในร้านอาหารซึ่งมีอิทธิพลต่อเป้าหมายเหล่านั้น
- สร้างแผนการเติบโตที่จะพัฒนาร้านอาหารในหลายๆ ด้าน
- เพิ่มผลกำไร วิธีการทำกำไร และความยั่งยืนของธุรกิจด้วยเป้าหมายที่เหมาะสม
ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน คุณจะพลาดผลประโยชน์เหล่านี้ไป ซึ่งจะทำให้กำลังกายและกำลังใจของคุณหรือของพนักงานลดลง
นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้านอาหาร ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน ลูกค้าเริ่มขาดหาย ธุรกิจหยุดชะงัก และไม่โดดเด่นอีกต่อไป
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจของคุณจะล้มเหลวเนื่องจากขาดนวัตกรรม มีปัญหาทางการเงิน หรือเกิดปัญหาเล็กๆ มากมายที่จะกลายเป็นหายนะเมื่อรวมเข้าด้วยกัน
ต่อไป เราจะพูดถึงเป้าหมายหลักสองประเภทของร้านอาหาร
เป้าหมายทั่วไป
เป้าหมายประเภทแรกคือ เป้าหมายทั่วไปของร้านอาหาร เป้าหมายเหล่านี้ เป็นเป้าหมายที่ไม่เจาะจง
ตัวอย่างเช่น:
- เพิ่มยอดขายและผลกำไร
- ให้คนรู้จักร้านอาหารมากขึ้น
- ให้ร้านอาหารทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ
- รักษาต้นทุนอาหารให้ไม่แพงหรือต้นทุนต่ำ
- เพิ่มความยั่งยืนและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของร้านอาหารให้สูงสุด
เป้าหมายทั่วไปนั้นมีความซับซ้อนเล็กน้อย เนื่องจาก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายแล้ว คุณจะต้องทำการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจอยู่หลายครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ
เป้าหมายทั่วไปหลายอย่างเป็นเป้าหมายระยะยาว หรือไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากจะมีวิธีใหม่ในการ "บรรลุ" เป้าหมายเหล่านั้นอยู่เสมอ
ตัวอย่างเช่น "เพิ่มยอดขายและผลกำไร" เป็นเป้าหมายที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในร้านอาหารของคุณ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บรรลุได้เมื่อคุณทำการตัดสินใจอย่างถูกต้อง
เป้าหมายเฉพาะ
เป้าหมายเฉพาะนั้นซับซ้อนน้อยกว่าเป้าหมายทั่วไป เพราะเป้าหมายเฉพาะมีขั้นตอนที่แน่นอนที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อให้บรรลุผล และช่วยเสริมการบรรลุเป้าหมายทั่วไปในบางครั้ง
นอกจากนี้ เป้าหมายเฉพาะยังมีรายละเอียดมากกว่าอีกด้วย นี่คือตัวอย่างบางส่วน:
- เพิ่มยอดขายให้มากที่สุดโดยการเพิ่มประสิทธิภาพเวลาการเปิดทำการ โดยเปิดทำการในช่วงที่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน หรือช่วงที่มักจะสร้างยอดขายสูง
- ปรับปรุงวิธีการโปรโมทร้านอาหารทางสื่อออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้ารู้จักร้านมากขึ้น เช่น สร้างเว็บไซต์ และใช้กลยุทธ์ SEO และคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพสูง
- สร้างกลยุทธ์ให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำผ่านช่องทางต่างๆ ของร้านอาหาร เช่น สร้างแคมเปญการตลาดผ่านทางอีเมล เพื่อส่งโปรโมชั่นสุดพิเศษให้กับลูกค้า
- ปรับปรุงการบริการลูกค้าในร้านอาหารโดย ฝึกอบรมพนักงาน ให้ใช้สคริปต์ในการขาย พัฒนาทักษะในการแก้ปัญหา บุคลิก และมารยาทในการพูดคุยกับลูกค้า
เป้าหมายเฉพาะของแต่ละร้านอาหารนั้นแตกต่างกัน ซึ่งสามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อให้เข้ากับความต้องการของร้านอาหารแต่ละแห่ง
อย่างไรก็ตาม ควรจะสร้างระบบที่จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงเป็นแบบถาวร ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่ต้องเสียเวลากับเป้าหมายที่บรรลุแล้ว แต่ท้ายที่สุด ประสิทธิภาพนั้นอาจหย่อนยานได้ตามกาลเวลา
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถบรรลุเป้าหมายในการปรับปรุงการบริการลูกค้าด้วยขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น แต่ถ้าคุณไม่สามารถนำระบบนี้ไปใช้กับพนักงานใหม่ทุกคนได้ คุณภาพของการบริการจะลดลงเมื่อต้องจ้างพนักงานใหม่
เป้าหมายเฉพาะนั้นซับซ้อนกว่าเป้าหมายทั่วไปก็จริง แต่สามารถกำหนดได้ง่ายกว่า หากทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
ขั้นตอนในการสร้างเป้าหมายสำหรับร้านอาหาร
ต่อไปจะเป็นขั้นตอนที่คุณต้องปฏิบัติตาม เพื่อสร้างเป้าหมายให้กับร้านอาหารของคุณ
จุดประสงค์ของขั้นตอนเหล่านี้คือเพื่อ:
- สร้างเป้าหมายที่ทำได้และบรรลุได้
- สร้างเป้าหมายที่วัดได้
- สร้างเป้าหมายที่สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานหรือระบบที่จะช่วยคงประสิทธิภาพของความสำเร็จไม่ให้ลดลงตามกาลเวลา
- สร้างแผนเฉพาะที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายแต่ละข้อ
ขอเน้นย้ำว่า ขั้นตอนเหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นจาก กลยุทธ์ SMART เพื่อสร้างเป้าหมาย
ดังนั้น ประเภทของเป้าหมายที่คุณจะสามารถสร้างได้ด้วยขั้นตอนเหล่านี้ คือ เป้าหมายเฉพาะ
ตัวอย่างเช่น สร้างเป้าหมายว่าเป็นการเพิ่มจำนวนออเดอร์ซื้อกลับบ้าน หรือ จำนวนออเดอร์แบบจัดส่ง ให้ได้สูงสุด
มาเริ่มที่ขั้นตอนกันเลย!
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป้าหมายมีความเฉพาะเจาะจง
กลยุทธ์ SMART กล่าวว่า เป้าหมายจะต้องเฉพาะเจาะจง
ดังนั้น คุณต้องสร้างเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างกว้างๆ
ลองนึกถึงเป้าหมายว่าเป็นเหมือนเม็ดทรายในนาฬิกาทราย — ความสำเร็จสูงสุดคือเม็ดทราย (หรือเป้าหมาย) แต่ละเม็ดที่อยู่ด้านล่าง
ตัวอย่างเช่น เป้าหมายคือ:
เพิ่มจำนวนออเดอร์จัดส่ง 50%
สมมติว่า ร้านอาหารพึ่งเปิดใหม่ และได้รับออเดอร์จัดส่งประมาณ 100 รายการในแต่ละเดือน
การตั้งเป้าหมายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มยอดขายของร้านอาหารได้มากขึ้น
2. เป้าหมายต้องวัดได้
การทำให้แน่ใจว่าเป้าหมายที่ตั้งสามารถวัดผลได้นั้นต้องคิดในหลายแง่
คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า:
- วัตถุประสงค์ของคุณมีความเฉพาะเจาะจง
- คุณมีเครื่องมือที่ถูกต้องในการรวบรวมข้อมูล
- คุณสามารถวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาคำนวณผลลัพธ์ได้
สำหรับตัวอย่างเป้าหมายข้างต้น ที่ว่าจะเพิ่มจำนวนออเดอร์จัดส่ง 50% นั้นหมายถึง มีจำนวนออเดอร์จัดส่งเพิ่มขึ้น 50 รายการต่อเดือน
เราต้องการข้อมูลเฉพาะที่สามารถนำมาคำนวณเพื่อวัดเป้าหมายนี้ได้
เราแนะนำให้ใช้ ระบบ POS ของร้านอาหาร Waiterio ที่สามารถแยกข้อมูลและคำนวณให้คุณได้แบบอัตโนมัติ
ในการแยกข้อมูลด้วยตัวเอง สำหรับกรณีตัวอย่าง คุณอาจจะต้องทำเมนูอาหารขึ้นมาใหม่ แต่อาจจะเพิ่มป้ายกำกับ (สำหรับจัดส่ง) และเพิ่มค่าบริการ คิดต้นทุนต่อภาชนะและต้นทุนอาหาร เพื่อให้ราคาอาหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ด้วยวิธีนี้ ผู้ที่ต้องการใช้บริการจัดส่งจะสามารถเลือกรายการเฉพาะเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และเรายังได้ข้อมูลเพื่อนำมาคำนวณประสิทธิภาพของการบริการตอนสิ้นเดือนได้อีกด้วย
3. เป้าหมายต้องบรรลุได้
ความหมายของขั้นตอนนี้คือ ต้องทำให้เป้าหมายจับต้องได้มากที่สุด
ในกรณีตัวอย่าง เรารู้ว่าเป้าหมายนี้สามารถทำได้เพราะ บริการจัดส่ง นี้เป็นบริการใหม่
นั่นหมายความว่า เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้หลายวิธี เช่น ปรับปรุง กลยุทธ์ทางการตลาด หรือปรับปรุงบริการในด้านอื่นๆ เพื่อเพิ่มจำนวนออเดอร์จัดส่งต่อเดือนขึ้น 50%
อย่างไรก็ตาม การตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มออเดอร์จัดส่งขึ้น 250% ทันทีนั้นค่อนข้างจะเพ้อเจ้อ แม้ว่าเราอาจจะไม่ปฏิเสธถ้าบรรลุได้!
ดังนั้น คุณต้องสร้างเป้าหมายที่เป็นจริงและเป็นไปได้ และหลีกเลี่ยงการพยายามบรรลุเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งมันจะทำให้คุณหงุดหงิด หรือ ทำให้คุณตั้งคำถามกับวิธีการของคุณ
เราแนะนำให้เริ่มต้นด้วยเป้าหมายเล็กๆ เพื่อให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย
4. เป้าหมายต้องมีความเกี่ยวข้องกัน
ขั้นตอนนี้หมายความว่า คุณจะต้องแน่ใจว่า เป้าหมายแต่ละเป้าหมายที่กำลังสร้างนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของร้านอาหารได้
ในกรณีตัวอย่าง เป้าหมายทั่วไปคือการเพิ่มยอดขายและผลกำไรของร้านอาหาร
ดังนั้น ค่อนข้างแน่นอนว่า เป้าหมายในการเพิ่มออเดอร์จัดส่งนั้นเกี่ยวข้องกับการเพิ่มยอดขายของร้านอาหาร
เมื่อใดก็ตามที่คุณสงสัยว่าเป้าหมายของคุณมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ให้ศึกษาผลกระทบของเป้าหมายเฉพาะที่มีต่อเป้าหมายทั่วไป
5. เป้าหมายต้องมีเส้นตาย
การกำหนดระยะเวลาให้กับเป้าหมายคือ การกำหนดเส้นตายในการบรรลุเป้าหมาย ซึ่งแนะนำว่าควรเป็นกรอบเวลาที่เป็นไปได้
นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะทำให้คุณสามารถใช้เวลาในการหาคำตอบหรือตัดสินใจเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ คุณยังมีเวลาในการศึกษาผลลัพธ์ แทนที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสุญเสียในภายหลัง
ในกรณีตัวอย่าง เราจะลองเพิ่มรายละเอียดของเป้าหมาย
เป้าหมายคือ การเพิ่มออเดอร์จัดส่ง:
- โดย 50%
- ในสามเดือน
- เพิ่มบริการนี้ในกลยุทธ์การตลาดโซเชียลมีเดียของร้าน
- เพิ่มบริการนี้บนเว็บไซต์ของร้าน
- ออกแบบแบนเนอร์เพื่อวางในร้านอาหาร
เมื่อพิจารณาว่าเป้าหมายต้องสามารถวัดผลได้ และแคมเปญการตลาดต้องใช้เวลา สามเดือนก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพื่อที่จะเห็นผล และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ
6. สร้างระบบที่ช่วยให้ความสำเร็จยั่งยืน
เราได้สร้างขั้นตอนนี้ขึ้นเพื่อเน้นการสร้างระบบที่จะช่วยให้คุณสามารถทำให้ความสำเร็จของคุณยั่งยืน
ตัวอย่างเช่น หากได้รับออเดอร์จัดส่งเพิ่มขึ้น 50% เราก็ไม่อยากให้จำนวนออเดอร์ลดลงในเดือนหลังจากที่บรรลุเป้าหมายแล้ว
เราต้องการให้จำนวนออเดอร์ไม่ลดลงและเติบโตเพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุผลนี้ เราอาจจะสร้างคอนเทนต์รายเดือนที่จะช่วยเตือนผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียว่าร้านเรามีบริการจัดส่งอาหาร
ดังนั้น เราจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า บริการนี้จะอยู่ในใจของผู้ที่เคยใช้บริการ และยอดขายนั้นจะอยู่ที่ระดับเกือบหรือสูงกว่า 150 ต่อเดือน
7. อัพเดทเป้าหมาย
นอกจากการสร้างระบบเพื่อให้แต่ละความสำเร็จคงอยู่ เราขอแนะนำให้คุณอัปเดตเป้าหมายของคุณด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตัวอย่างเช่น ในเดือนต่อๆ ไปหลังจากที่บรรลุเป้าหมาย และสร้างระบบเพื่อดูแลมันแล้ว เราอาจจะต้องการจำนวนออเดอร์เพิ่มขึ้นอีก 20%
ขั้นตอนนี้สามารถใช้ได้จนกว่าเป้าหมายของคุณจะเหลือน้อยที่สุด เพื่อขจัดข้อผิดพลาดต่างๆ และปรับปรุงร้านอาหารของคุณให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
แน่นอนว่า เป็นความคิดที่ดีที่จะทำเช่นนี้ หลังจาก บรรลุเป้าหมายอื่นๆ เพราะมันจะทำให้ร้านอาหารพัฒนาขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ใช่แค่มีข้อดีอยู่อย่างเดียว แต่ที่เหลือเต็มไปด้วยจุดอ่อน
ร้านอาหารควรมีเป้าหมายกี่ข้อ?
ร้านอาหารของคุณไม่จำเป็นต้องมี 100 เป้าหมายในการเติบโต
อย่างไรก็ตาม ทุกๆหกเดือน หรือ อาาจจะในแต่ละปี คุณควรมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายเฉพาะที่จะช่วยให้ร้านอาหารเติบโตในทุกๆ ด้าน
เราแนะนำให้คุณสร้าง เป้าหมายทั่วไป 3 เป้าหมาย และเป้าหมาย เฉพาะ 3 เป้าหมาย ต่อเป้าหมายทั่วไปแต่ละข้อ
วิธีนี้จะทำให้ร้านอาหารเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ธุรกิจที่ไม่มีเป้าหมายไม่มีทางรุ่ง!
ธุรกิจที่ไม่มีเป้าหมายไม่สามารถเติบโตหรือเจริญรุ่งเรืองได้ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าธุรกิจแบบทำส่งๆ
หากคุณรู้สึกว่าธุรกิจของคุณเริ่มชะงัก ไม่บรรลุเป้าหมายอย่างที่คิดไว้ ควรพิจารณาสร้างเป้าหมายใหม่โดยใช้ขั้นตอนเหล่านี้
ประโยชน์อย่างหนึ่งที่เราไม่ได้พูดถึงคือ การมีเป้าหมายและการบรรลุเป้าหมายเป็นแรงจูงใจอย่างดีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ สำหรับทั้งเจ้าของร้านและพนักงาน
คุณกำลังสร้างเป้าหมายที่จะนำร้านอาหารไปสู่ความสำเร็จหรือไม่? เราหวังอย่างนั้นนะ!